การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี จะทำให้เกิดการลงทุนครั้งใหญ่ในพื้นที่ 3 จังหวัด ภาคตะวันออกของประเทศไทย ได้แก่ จ.ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา และจะทำให้เกิดการบริโภคในพื้นที่อย่างมหาศาลเปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจทั้งอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม และค้าปลีก ได้ขยายการลงทุนในหลายพื้นที่โดยเฉพาะพื้นที่ ที่มีศักยภาพในการพัฒนาอยู่แล้ว เช่น อ.เมือง ศรีราชา บางแสน พัทยา ใน จ.ชลบุรี และพื้นที่ในระยอง

ธีระชัย พิพิธศุภผล กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท โอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการนำที่ดินในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี จำนวน 80 ไร่ มาพัฒนา โครงการในรูปแบบมิกซ์ยูส ประกอบด้วย คอนโดมิเนียม โรงแรม วิลล่า โดยจะใช้เวลาศึกษาประมาณ 6 เดือน เพื่อรองรับกับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี

ขณะที่ ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย กล่าวว่า ในปีนี้การลงทุนในต่างจังหวัดจะให้ความสำคัญกับภาคตะวันออกใน จ.ชลบุรี และระยอง รองรับอีอีซีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะชลบุรีจะมีโครงการเปิดใหม่ 2-3 โครงการ เป็นที่อยู่อาศัยแนวราบทั้งหมดมูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท ทั้งในตัวเมืองและบางแสน ส่วนที่ระยองได้เปิดโครงการใหม่ไปแล้ว 1 โครงการ จากที่ผ่านมาได้เปิดไปแล้ว 3 โครงการ

ด้าน สุนทรา คำภูศิริ กรรมการบริษัท โกลด์เด้น กรุ๊ป กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในศรีราชายังเติบโตได้ดี ทั้งที่อยู่อาศัยแนวราบและแนวสูง โดยเฉพาะบนถนนสุขุมวิท บริเวณโรบินสัน ศรีราชา เป็นทำเลที่มีดีมานด์ทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมอยู่มาก บริษัทยังมีแผนพัฒนาโครงการในศรีราชาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยังมองเห็นถึงศักยภาพพื้นที่และความต้องการซื้อในศรีราชายังมีต่อเนื่อง

สำหรับในปีนี้จะมีทั้งการขยายเฟสโครงการเดิมและการพัฒนาโครงการใหม่ ในส่วนของจีคอนโด จำนวน 1,200 ยูนิต มูลค่า 1,700 ล้านบาท ที่ได้เปิดขายในเฟสแรกไปแล้วกว่า 400 ยูนิต คาดว่าสิ้นปีนี้จะปิดการขายและจะเปิดเฟส 2 อีก 600 ยูนิต ในต้นปี 2561 และยังรุกตลาดบ้านแนวราบ โดยจะเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยว โกลด์เด้น วัลเลย์ มูลค่า 500 ล้านบาท บนถนนไร่กล้วยราคาเริ่มต้น 3.9-7.5 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีบริษัทอสังหาริมทรัพย์อีกหลายรายที่เข้าไปลงทุนรองรับอีอีซี เช่น บริษัท มารวย เรียลเอสเตท บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ ที่เตรียมเปิดตัวโครงการโกลเด้นทาวน์ ศรีราชา-เก้ากิโลเมตร เพื่อรองรับ อีอีซี ส่วนบริษัท เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ก็ยังสนใจขยายโครงการต่อเนื่อง เช่นเดียวกับบริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ เป็นต้น

สลิลลา สีหพันธุ์ รองประธานกรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท บริษัท เอกชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม ผู้บริหารห้างเทสโก้ โลตัส กล่าวว่า หลังจากบริษัทประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีกับการขยายสาขาใกล้กับแนวชายแดน ส่งผลให้แนวทางการดำเนินธุรกิจนับจากนี้ บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อรองรับลูกค้าจากประเทศเพื่อนบ้านที่ข้ามพรมแดนมาจับจ่ายในประเทศไทยมากขึ้นเรื่อยๆ

ไพสิฐ แก่นจันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ กล่าวว่า การลงทุนโครงการมิกซ์ยูสของบริษัทที่บริเวณหาดแม่พิมพ์ จ.ระยอง พื้นที่ 90 ไร่ มูลค่าโครงการ 4,700 ล้านบาท ประกอบด้วย โรงแรม คอนโดมิเนียม และพูลวิลล่า จะได้รับอานิสงส์จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการพัฒนาโครงการอีอีซี โดยจะมีห้องประชุมสัมมนาที่ใหญ่ที่สุดทางภาคตะวันออกรองรับการประชุมสัมมนาของผู้ที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมในเขตอีอีซีได้ดี

ทั้งนี้ อีอีซีจะสร้างผลดีต่อธุรกิจโรงแรม เพราะช่วยเติมเต็มให้มีผู้เข้าพักวันธรรมดาด้วยไม่ใช่มีแต่ตลาดนักท่องเที่ยวคนไทยที่พักวันเสาร์และอาทิตย์ แต่ผู้ประกอบการโรงแรมก็ต้องปรับตัวรองรับโอกาสที่จะเกิดขึ้นด้วย ขณะที่การลงทุนใหม่ๆ ก็ยังมีโอกาสอยู่ในแถบพัทยา ศรีราชา ชลบุรี ระยองไปจนถึงตราด ทั้งการลงทุนโรงแรมเพื่อรองรับตลาดนักท่องเที่ยวและการลงทุนเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์รองรับตลาดชาวต่างชาติที่มาทำงานในเขตอีอีซีแล้วต้องการพักระยะยาว

"สนามบินอู่ตะเภาคงจะมีการใช้มากขึ้นอีกเมื่อมีอีอีซี เพราะสายการบินต่างๆ ก็คงจะเพิ่มเที่ยวบินมาลงที่นี่ นอกจากแอร์เอเชียที่เริ่มใช้ที่นี่เป็นฐานการบินแล้ว ดังนั้นก็จะขนส่งคนมาพักทางแถบภาคตะวันออกได้มากขึ้น โดยเฉพาะพัทยาและระยอง ซึ่งห่างจาก อู่ตะเภาไม่เกินครึ่งชั่วโมง" ไพสิฐ กล่าว

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์