นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ใน 6 เดือนข้างหน้า มีค่าเท่ากับ 50.5 ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 58.8 ซึ่งลดลงรุนแรงในทุกปัจจัย แม้จะสูงเกินค่ากลางระดับ 50 ก็ตาม สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการเชื่อมั่นเชิงบวกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ท่ามกลางความกังวลเรื่องของการควบคุมการระบาดของโควิดที่รัฐบาลยังไม่สามารถควบคุมได้ ยกเว้นหากว่ารัฐบาลจะสามารถเปิดประเทศได้ใน 120 วัน ในช่วงเดือน ต.ค. ก็จะสามารถช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศให้ปรับตัวดีขึ้นได้

          ทั้งนี้ เมื่อจำแนกเป็นกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีความเชื่อมั่นต่ออนาคตเท่ากับ 55.7 ลดลงจากไตรมาสก่อนที่ 63.6 ขณะที่ผู้ประกอบการฯ นอกตลาดหลักทรัพย์ มีค่าดัชนีเท่ากับ 42.7 ลดลงจากไตรมาสก่อนที่ 51.5 เช่นกัน เห็นชัดว่าผู้ประกอบการกำลังขาดความเชื่อมั่นต่ออนาคตอีก 6 เดือนข้างหน้า โดยเฉพาะกลุ่มนอกตลาดหลักทรัพย์ที่ต้องเสียเปรียบในด้านการแข่งขันเมื่อเทียบกับบริษัทมหาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินลงทุน ชื่อเสียงของบริษัท การทำตลาด

          นายวิชัย กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นฯผู้ประกอบการฯ ไตรมาส 2 ปี 64 มีค่าเท่ากับ 46.4 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่ยังคงยังต่ากว่าค่ากลางที่ 50 เป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน นับตั้งแต่ไตรมาสสองปี 62 ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากการบังคับใช้มาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารแห่งประเทศไทยในปี 62 ต่อมาปี 63 ประเทศไทยต้องประสบกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด และเศรษฐกิจตกต่า จนเป็นสาเหตุที่ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว

          "เมื่อจำแนกกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีค่าดัชนีเท่ากับ 51.1 ซึ่งสูงกว่าไตรมาสก่อนที่ 49.4 แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการกลุ่มบริษัทมหาชน เชื่อมั่นต่อธุรกิจในภาวะปัจจุบัน หลังยอดขายเริ่มดีขึ้น และมีการลงทุนเปิดตัวโครงการใหม่ โดยเฉพาะที่โครงการบ้านจัดสรรเพื่อทดแทนบ้านที่ขายได้ โครงการคอนโดฯที่เปิดตัวลดลง ส่วนผู้ประกอบการนอกตลาดหลักทรัพย์ มีความเชื่อมั่นลดเหลือ 39.3 จากก่อนหน้านี้ที่ 41.7 โดยขาดความเชื่อมั่นต่อธุรกิจในภาวะปัจจุบันทุก ๆ ปัจจัย"