ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ หนุนดึงต่างชาติฟื้นศก. 
Loading

ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ หนุนดึงต่างชาติฟื้นศก. 

วันที่ : 8 ตุลาคม 2564
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) หนุน ต่างชาติ ซื้อบ้าน-คอนโดฯ สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้
            ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผยตัวเลข การถือครองกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย ไทยต่างชาติตั้งแต่ปี 2561-ครึ่งแรก ปี 2564 แตะ 1.6 แสนล้าน ระบุต่างชาติถือกรรมสิทธิ์ห้องชุดแค่ 10% แนะขยายเกิน 49% เฉพาะพื้นที่หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ จากการที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 14 ก.ย.2564 เห็นชอบตามที่สำนักงาน สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติ ที่มีศักยภาพสูง หลายฝ่ายต้องการทราบถึงข้อมูลการถือครองอสังหาฯ ของชาวต่างชาติว่าปัจจุบันเป็นอย่างไร

          นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์หรือ REIC กล่าวว่า สถิติการถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดของต่างชาติ พบว่าช่วงปี 2561-2563  ยอดการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด 3 ปี สะสม 1,408,310 ตร.ม. นำโดยกรุงเทพฯ -ปริมณฑล 777,961 ตร.ม.  ภาคตะวันออก 433,399 ตร.ม. และ ภาคเหนือ 102,902 ตร.ม. จังหวัดที่มีพื้นที่การโอนสูงสุด 5 อันดับแรกประกอบด้วย 1.กรุงเทพฯ 49.4%  ชลบุรี 30.2% เชียงใหม 7.1% ภูเก็ต 4.9 % และ สมุทรปราการ 4.5%  ส่วนจำนวนหน่วยการซื้อของต่างชาติ ทั่วประเทศระหว่างปี 2561-2563 มี 34,653 หน่วย มูลค่า 145,598 ล้านบาท อันดับ 1 สัญชาติจีน ตามด้วยรัสเซีย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น

          นายวิชัย กล่าวว่า บางพื้นที่ในบางจังหวัด เช่นภูเก็ตหรือชลบุรี หรือโซนศูนย์กรุงเทพฯ อาจมีความต้องการถือครองกรรมสิทธิ์พื้นที่ห้องชุดในอัตราส่วนที่สูงกว่า 49% ในกรณีเช่นนี้อาจพิจารณาขยายอัตราส่วนการครอบครองกรรมสิทธิ์สำหรับบางพื้นที่ก็น่าจะเพียงพอต่อความต้องการซื้อและ ยังสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้

          ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ยังได้รวบรวมสถิติข้อมูลการเช่าอสังหาริมทรัพย์ระยะยาวหรือสัญญาเกินกว่า 3 ปี ช่วง ปี 2561 - 2563 มีการจดทะเบียนการเช่า

          ทั้งประเภทโครงการจัดสรรและอาคารชุดพักอาศัยประมาณ 1,483 หน่วย มูลค่า 5,389 ล้านบาท  ซึ่งเป็นการเช่าอาคารชุดมากกว่าที่จะเช่าเป็นบ้านแนวราบ

          จากข้อมูลสะท้อนให้เห็นว่า ในช่วง 2561-ครึ่งแรกปี 2564 คนต่างชาติได้ เข้ามาซื้อและรับโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด 39,000 หน่วย มูลค่า 166,000 ล้านบาท ตกปีละ 12,000 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 50,000 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าในช่วงที่ผ่านมาคนต่างชาติเข้ามาซื้อห้องชุด10% ในเชิงจำนวนหน่วย และ17% ในเชิงมูลค่า และยังมีการเช่าระยะยาวอีกไม่มากนัก ดังนั้น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย หากสามารถทำได้ตาม เป้าหมายก็จะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ระดับหนึ่ง แต่คงจะต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ในการดำเนินการทั้งที่เกี่ยวข้องกับการแก้กฎหมาย การวางกฎระเบียบ และการ วางแนวทางการดำเนินการที่เกี่ยวข้อง ในรายละเอียดอีกมาก
 
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ